ข่าวส่วนกลาง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธาน ในพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรประดับยอดพระเมรุมาศ ซึ่งกรมศิลปากรยึดต้นแบบการจัดสร้างฉัตรรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 ตามโบราณราชประเพณีงดงามสมพระเกียรติ
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐

        วันนี้ (17 ต.ค. 60) เวลา 13.30 น. กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) เปิดแถลงประเด็นงาน “พิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรประดับพระเมรุมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ” ถึงแนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชนและประชาชน ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ณ ศูนย์สื่อมวลชน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีนางสาวศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร และนายพรพิทักษ์  แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมให้ข้อมูล

                นางสาวศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่าการจัดสร้างพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ประดับยอดพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ 100 %โดยการออกแบบพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรได้นำต้นแบบมาจากพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 6 และพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 8  โดยดำเนินการจัดสร้างตามแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ ตามความหมายคือ นพ แปลว่า เก้า  เศวต แปลว่า ขาว ส่วนฉัตร คือ ร่มขาวที่กางทั้งหมด 9 ชั้น โดยการจัดสร้างพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรครั้งนี้มีความพิเศษ คือ มีขนาดใหญ่ มีความสูงตั้งแต่ส่วนปลียอด จนถึง ยอดสุด 5.10 เมตร และมีความกว้าง 1.10 เมตร จัดทำด้วยผ้าเบาทิ้งตัวสีขาวมีขลิบทอง รวมสามชั้น โดยนำผ้าสามผืนมาล้อมโครงในการขลิบทอง เส้นขลิบของฉัตรชั้นล่างมีความหนาที่สุด และแขวนประดับด้วยจำปา 14 ช่อ ห้อยลงมาให้เกิดความสวยงาม ที่สำคัญที่บริเวณส่วนยอดของฉัตรได้ดำเนินการตามแบบโบราณราชประเพณี คือ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ต้องมีลักษณะเป็นทรงองค์ระฆังจากนั้นเป็นบัวกลุ่ม คั่นด้วยลูกแก้วบัวกลุ่มต่อด้วยปลีปลาย เป็นโลหะทองแดงกลึงรับ เพื่อต่อสายล่อฟ้าด้วย อย่างไรก็ตามการจัดสร้างครั้งนี้มีการใช้ตาข่ายพลาสติก ใส่ไว้ในโครงสร้างเพื่อเวลาที่ฉัตรเจอลมแล้วจะไม่ยุบช่วยทำให้การเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติและยังสามารถกลับมาอยู่ที่เดิมและไม่เป็นสนิม 

                พิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค. 60) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว    จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน ในเวลา 17.00 น. ซึ่งสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 16.50 น. เป็นต้นไปจนจบพิธี โดยฤกษ์ในการยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร คือ เวลา 17.19 - 21.30 น. วิธีการยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรจะเป็นการยกตัวฉัตรทั้งหมด ดังนั้นจะต้องมีการประกอบแกนฉัตรที่เป็นเหล็กและมีก้านออกไปเหมือนร่ม การติดตั้งฉัตรต้องสลักเข้าเดือยให้แน่นหนามีความแข็งแรงสูงสุด โดยเฉพาะปลายฉัตรที่จะต้องทำหน้าที่เป็นสายล่อฟ้า จึงต้องใช้โลหะทองแดงกลึงที่บริเวณส่วนปลายและจะมีสายทิ้งดิ่งยังข้างล่าง โดยได้ดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่การยกฉัตรนั้นจะต้องใช้ความระมัดระวัง
สายทิ้งดิ่งจะตกไม่ได้
 โดยกรมศิลปากรได้ทดลองยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                โดยในวันนี้ (17 ต.ค. 60) เวลา 17.00 น. จะมีการซ้อมยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรโดยมีพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

                ด้านนายพรพิทักษ์  แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิบัติของสื่อมวลชนและประชาชน ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.60) ให้แต่งกายชุดสุภาพไว้ทุกข์ เสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทสีดำ สูทสีดำ สวมกางเกงสแลค / กระโปรงยาวคลุมเข่า รองเท้าหุ้มส้นสีดำ ทั้งนี้ ยังได้ย้ำถึงแนวการปฏิบัติตัวของประชาชนที่จะมาร่วมงานพระราชพิธีฯ ว่าหากนำร่มก็ขอให้เป็นร่มสีสุภาพ เช่น ดำ หรือสีใกล้เคียง ทั้งยังขอให้ประชาชนแสดงความเคารพโดยอยู่ในอาการสำรวม ไม่เปล่งเสียงเวลาขบวนเสด็จฯ ผ่าน

 

ข่าวโดย กอร.พระราชพิธีฯ

บรรณาธิการ นางสาวธนัชพร ถ้ำสิงห์ 

Top