ข่าวส่วนกลาง
กอร.พระราชพิธีฯ แถลงผลการประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
๐๙ ตุลาคม ๒๕๖๐

            วันนี้ (9 ต.ค.60) เวลา 12.30 น. กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ  พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ โดยมี พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พลตำรวจตรี ฤชากร จรเจวุฒิ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี กระทรวงกลาโหม

  

            พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แถลงผลการประชุม กอร.พระราชพิธีฯ ว่า คณะทำงานทุกฝ่ายมีความพร้อมร้อยละ 98 - 99 โดยบางจุดยังไม่สามารถนำอุปกรณ์ทั้งหมดลงไปประจำพื้นที่ได้ เนื่องจากอุปกรณ์บางชนิดจะทำให้ สี ความสวยงามลดลง ทั้งนี้ ในที่ประชุมรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้สรุปและสั่งการ 6 เรื่อง คือ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาถือว่ามีความพร้อมสมบูรณ์ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน กำหนดจุดเส้นทางต่าง ๆ ให้ชัดเจนและตรวจสอบให้เรียบร้อย รวมทั้งให้กำหนดข้อควรปฏิบัติของประชาชนและสื่อมวลชน โดยขอให้กรมประชาสัมพันธ์ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการเข้าร่วมถวายดอกไม้จันทน์ในแต่ละพื้นที่ สำหรับผู้ที่จะเดินทางมากรุงเทพมหานครต้องรับทราบข้อมูลข่าวสารในการเดินทาง พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรม ในวันคล้ายวันสวรรคตในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เพื่อให้มีความสมบูรณ์และสมพระเกียรติ

            ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงนโยบายการดำเนินงานในพระราชพิธี ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศว่า กระทรวงมหาดไทยจะใช้นโยบายและมาตรการรักษาความปลอดภัยเหมือนพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทาง จุดจอดรถ อาหารและน้ำดื่ม รวมถึงการรักษาความปลอดภัย ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการในการจัดจุดวางดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ 878 จุด รวมถึงพระเมรุมาศจำลองใน 76 จังหวัด โดยมีคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 95 และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์พระราชทาน 802 จุดทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 90 และได้จัดทำดอกไม้จันทน์ไปแล้วกว่า 61 ล้านดอก ซึ่งทั้งหมดต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 ตุลาคม ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้เริ่มซักซ้อมพิธีการถวายดอกไม้จันทน์กับข้าราชการและจิตอาสา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นอกจากนี้ได้เตรียมให้แต่ละจังหวัดบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในวันพระราชพิธี เพื่อจัดทำสมุดภาพประวัติศาสตร์ประจำอำเภอและจังหวัดทั่วประเทศ

            ทั้งนี้ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์ในพื้นที่และจังหวัดของตัวเอง เพราะพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้นคล้ายกับท้องสนามหลวงทุกประการ ถึงแม้ว่าพื้นที่โดยรอบท้องสนามหลวงจะสามารถจุคนได้ถึง 250,000 คน แต่จะมีประชาชนจำนวน 40,000 - 50,000 คนเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามารับชมพระราชพิธีเคลื่อนริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ สำหรับพื้นที่โดยรอบที่ประชาชนสามารถรับชมริ้วขบวนได้ มีดังนี้

               ถนนมหาราชแยกท่าช้าง - ท่าเตียน สามารถรองรับประชาชน 2,500 คน ท่าเตียน - สามแยกเชตุพน 2,500 คน ตลอดเส้นทางศาลฎีกาไปสะพานผ่านพิภพลีลา 15,500 คน ถนนพระธาตุยาวไปจนถึงโรงละครแห่งชาติ 6,500 คน ทั้งนี้ ประชาชนที่จะมาร่วมในพระราชพิธีนี้ ต้องพกบัตรประชาชนและเตรียมอาหารและน้ำมาด้วย โดยประตูจุดคัดกรอง  จะเปิดในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม และประชาชนสามารถอยู่ได้ถึงวันที่ 26 ตุลาคมจนเสร็จสิ้นพระราชพิธี


  


            ขณะที่ พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า ได้จัดกำลังตำรวจประมาณ 70,000 นาย ดูแลทุกส่วนทั้งด้านความปลอดภัยและด้านจราจร โดยมีจิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีฯ อยู่รอบพื้นที่ท้องสนาม ทั้งนี้ มีการประเมินว่าตั้งแต่ถนนราชดำเนินนอกจนถึงสนามหลวง มีพื้นที่ 150,000 ตารางเมตร สามารถรองรับประชาชนได้ 200,000 - 500,000 คน โดยตั้งแต่ 05.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค.2560 จะเปิด         จุดคัดกรองให้ประชาชนเข้าสู่พื้นที่ด้านในสนามหลวง ซึ่งทุกคนจะต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนมาเพื่อเป็นการแสดงตนหากไม่มีเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ผ่าน

            ด้าน พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม ทั้งในถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินใน และถนนราชดำเนินกลาง ทางทิศเหนือตั้งแต่ลานพระวังดุสิต ทิศใต้ ปากคลองตลาด ทิศตะวันออก แยกสะพานขาว ถนนหลานหลวง และทิศตะวันตก ถนนอรุณอัมรินทร์และแยกบรมราชชนนี โดยไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่ แนะนำให้ใช้วิธีเดินเท้าเข้ามายังพื้นที่เท่านั้น ทั้งนี้ ได้จัดพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ส่วนตัวได้รอบกรุงเทพมหานคร ทั้ง 13 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 30,000 คัน และมีรถบริการรับส่งประชาชนมายังพื้นที่พระราชพิธี 5 จุด คือ สนามม้านางเลิ้ง บ้านมนังคศิลา สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง แยกอรุณอัมรินทร์ และแยกวิสุทธิกษัตริย์

 

Top